บทนำ
ความกระด้างของน้ำมีจุดเริ่มต้นจากความเขาใจที่วาเป็นการวัดความสามารถของน้ำในการตกตะกอนสบูโดยที่สบูจะถูกทำให้ตกตะกอนโดยอิออนหลัก
คือ Ca++
และ Mg++ สวนอิออนรอง คือPolyvalent Cations
เช่นAl3+ Fe3+ Mn2+ Sr2+ และ Zn2+ ซึ่งจะทำให้เกิดตะกอนเชิงซ้อนในปัจจุบันได้ให้คําจำกัดความไวดังนี้
น้ำกระด้าง หมายถึง น้ำที่ประกอบด้วยไอออนของแคลเซียมและแมกนีเซียมละลายอยู ซึ่งสวน
ใหญ่จะอยูในรูปของเกลือไฮโดรเจนคาร์บอเนต
นอกจากนี้โลหะทั้งสองยังอยูในรูปของเกลือคลอไรดและเกลือซัลเฟต
น้ำที่มีเกลือไฮโดรเจนคาร์บอเนตของโลหะทั้งสองละลายอยู เมื่อตมโลหะทั้งสองจะตกตะกอนอยูในรูปของ
CaCO3และ MgCO3น้ำที่ได้จึงหายกระด้าง
เราเรียกความกระด้างอันเนื่องมาจากCa(HCO3)2และ Mg(HCO3)2 นี้ว่าความกระด้างชั่วคราว (Temporary Hardness) สวนน้ำที่มีเกลือคลอไรดและเกลือซัลเฟตของแคลเซียมและแมกนีเซียมละลายอยู
เมื่อเอาน้ำนี้มาตมแคลเซียมและแมกนีเซียมจะไม่ตกตะกอนแยกตัวออกจากน้ำ
ความกระด้างอันเนื่องจากเกลือคลอไรดและเกลือซัลเฟตนี้เรียกว่าความกระด้างถาวร (Permanent
Hardness)
หลักการ
ในการหาปริมาณของแคลเซียมและแมกนีเซียมในน้ำสามารถทำได้โดยการไทเทรตกับอีดีทีเอ
โดยใช้เอริโอโครมแบลคทีเป็นอินดิเคเตอร์
วัตถุประสงค์
เพื่อวิเคราะห์หาความกระด้าง
ด้วยวิธีตามที่กำหนดให้
อุปกรณ์และสารเคมี
อุปกรณ์
1. ขวดรูปชมพู่ (erlenmeyer flask) ขนาด 125 mL
2. ปิเปต (pipette) ขนาด 5,
10, 25, 50 mL
3. บิวเรต (burette) ขนาด 25
mL
4. บิกเกอร์ ขนาด 50, 150 ml
5. ขวดวัดปริมาตร ขนาด 1,000 ml
6. ช้อนตักสาร
7. น้ำกลั่น
สารเคมี
1. Eriochrome Black T indicator
2. แมนนีเซียมคลอไรด์ (MgCl26H2O)
3. Disodium Salt (0.01 M)
4. แอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ เข้มข้น (NH4OH
conc.)
5. แอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl)
6.กรดไฮโดรคลอริกเข้มข้น(HCl
conc.)
7.แคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) 8.
เมทธิลเรดอินดิเคเตอร์
วิธีการ
1. การเตรียมสารละลาย
1.1 สารละลายบัฟเฟอร์ (Buffer Solution)
ละลายแอมโมเนียมคลอไรด์ (NH4Cl)
16.9 g ในแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ (NH4OH) 143 ml และเติมเกลือแมกนีเซียม EDTA 1.25 g แล้วเติมน้ำกลั่นให้ได้ปริมาตร
250 ml
1.2 Indicator I สำหรับความกระด้างทั้งหมด
(Total hardnrss indicator)
ผสม Eriochrome Black T 0.5 g กับโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) 100 g
1.3 Indicator I สำหรับความกระด้างแคลเซียม
(Calcium hardnrss indicator)
ผสมแอมโมเนียมโพพิวเรท (Murexide)
200 mg กับโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) 100 g
1.4 สารไตเตรท 0.01 M EDTA
ละลายไดโซเดียม เอทิลินไดเอมีนเตรตตระอะซิเตท
ไดไฮเดรท (EDTA) 3.723 g ในน้ำกลั่นแล้วเจือจางด้วยน้ำกลั่นให้ได้
1,000 ml
2. วิธีการวิเคราะห์ Total
hardnrss
1. ดูดน้ำตัวอย่างมา 50 ml ใส่ลงในขวดรูปชมพู่ขนาด 250
ml เติมสารละลายบัฟเฟอร์ 1 ml จะให้ค่า pH
10.0 + 0.1
2. เติมสาร Indicator I ชนิดผงแห้งปริมาณเล็กน้อย จนเกิดสีม่วงแดง
3. ไตเตรทด้วยสารละลายมาตรฐาน EDTA 0.01 M พร้อมเขย่าขวด
จุดยุติเมื่อสารละลายเปลี่ยนจากสีม่วงแดงเป็นสีน้ำเงิน
การคำนวณผล
Total hardness (mg/l) = AxBx1,000 / ปริมาตรน้ำตัวอย่าง
* เมื่อ A = ปริมาตร EDTA ที่ใช้ในการไตเตรทน้ำตัวอย่าง
B = มก.CaCO3 ซึ่งเท่ากับ 1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น